บอลอังกฤษ

ยักษ์ใหญ่พรีเมียร์ลีก ดรอคอยว์ดาวน์ยึดอำนาจ? ชี้แจงเนื้อหา "แผนภาพใหญ่" ที่โหยกเหยกแวดวง บอลอังกฤษ

ตลาดซื้อขายแลกเปลี่ยนในยุโรปปิดลงและก็วันเกมระหว่างชาติกำลังจะออกเดินทางมาถึงว่ากันว่าพรีเมียร์ลีกที่ไม่มีเกมควรจะสงบ แม้กระนั้นเมื่อวันอาทิตย์ก่อนหน้านี้ "เดลี่เทเลกราฟ" ออกโรงกล่าวมาว่าหงส์แดง, แมนเชสเตอร์ยูไนเต็ดรวมทั้ง ทีมเยอรมัน ชมรมยักษ์ใหญ่อื่นๆบากบั่นลดระดับพรีเมียร์ลีกให้เหลือแค่กลุ่ม "Project Big Picture" ชุดที่ 18 แม้กระนั้นมันก็ราวระเบิดนิวเคลียร์ที่ถูกโยนเข้าไปใน กลุ่มบอลอังกฤษแท่นบูชากระตุ้นให้เกิดการเถียงอย่างยิ่ง

แผนสำคัญนี้มีการเปลี่ยนอะไรบ้าง? สามารถผ่านรวมทั้งนำไปปฏิบัติได้เสร็จไหม ให้พวกเราชี้แจงเนื้อหาข้างล่าง

ลดขนาดทุ่มเงินยึดอำนาจ

ข้อแรกจะต้องกระจ่างว่า "แผนภาพรวม" ไม่ใช่แค่ 20 กลุ่มที่กลายเป็น 18 กลุ่มในพรีเมียร์ลีกความเคลื่อนไหวที่เกี่ยวพันรวมทั้งระบบการแข่งขันชิงชัยการคลังแล้วก็ผู้กระทำระจายอำท้องนาจ พวกเรามาเอ๋ยถึงระบบการแข่งขันชิงชัยกันก่อน นอกเหนือจากการลดรอบ 38 รอบพรีเมียร์ลีกเหลือ 34 รอบแล้วแผนดังที่กล่าวผ่านมาแล้วยังมีแผนในการจะยกเลิก Community Shield รวมทั้งลีกคัพอังกฤษเพื่อลดภาระหน้าที่ให้กับกลุ่มในพรีเมียร์ลีก นอกนั้นยังมีการเปลี่ยนแปลงการตกชั้นของกลุ่ม 3 กลุ่มเดิมแล้วก็ระบบการเลื่อนชั้นของพรีเมียร์ลีก: 3 ชั้นข้างล่างสุดในพรีเมียร์ลีกจะผิดผลักไสไล่ส่งโดยตรงอีกต่อไป แม้กระนั้นจะเข้าสู่การเลื่อนชั้นโดยมีชั้นที่ 3, 4 รวมทั้ง 5 ใน พรีเมียร์ลีกเพื่อเข้ารอบชิงแชมป์ที่เดียว

สำหรับทางการเงินเรื่องสำคัญของแผนปฏิวัติได้แก่การใช้เงินในพรีเมียร์ลีกมากขึ้นเรื่อยๆเพื่ออุดหนุนลีกระดับล่างแล้วก็บอลหญิงในอังกฤษ ว่ากันว่า "ภาพรวม" มีมาตรการช่วยเหลือเป็นจำนวนมาก ในแนวทางระยะสั้นเป็นการให้การช่วยเหลือทางด้านการเงินรีบด่วนปริมาณ 250 ล้านปอนด์แก่ EFL (ลีกบอลอังกฤษซึ่งเป็นหน่วยงานที่มีอำนาจของดิวิชั่นสองสามและก็สี่ของอังกฤษ) และก็ชำระเงินทั้งผอง 100 ล้านปอนด์ให้กับ ชมรมบอลเพื่อชดเชยการสูญเสียการลงทุนในบอลหญิงบอลลีกแห่งชาติอังกฤษ (ระดับ 5, 6 รวมทั้ง 7) และก็บอลระดับรากต้นหญ้า

แผนระยะยาวเป็นผู้กระทำระจายรายได้ 25% ของพรีเมียร์ลีก (จำนวนมากเป็นค่าธรรมเนียมการออกอากาศ) ให้กับ EFL นี่เป็นเงินใหญ่ด้วยเหมือนกันเพราะเหตุว่าตามกฎเดี๋ยวนี้สมาพันธ์ในพรีเมียร์ลีกสามารถแบ่งรายได้ 92% จากลีกรวมทั้งมีเพียงแต่ 4% ของที่เหลือเพียงแค่นั้นที่จะใช้ประโยชน์เป็นเงินลงทุนในระดับลำดับที่สองสามรวมทั้งสี่ ลีก ตามคาดการณ์แผนปฏิวัตินี้จะเพิ่มรายได้ต่อปีของแต่ละกลุ่มในแชมเปี้ยนส์ลีก 15.5 ล้านปอนด์รายได้ของกลุ่มลีกวัน 3.5 ล้านรวมทั้งชมรมในลีกทูยังสามารถรับรายได้เพิ่มเติม 2.3 ล้านปอนด์ในแต่ละปี

จากการแบ่งปันรายได้มากยิ่งกว่า 90% ของลีกไปจนกระทั่งการน้อยลงเหลือ 75% สมาพันธ์ในพรีเมียร์ลีกที่พรีเซ็นท์ "แผนภาพรวม" นั้นมิได้มีไว้เพื่อ "การทำสิ่งที่ดี" อย่างแน่แท้ สิ่งที่พวกเขาปรารถนาได้รับกลับมาเป็นพลังที่ยิ่งใหญ่กว่า กฎระเบียบสำหรับการแก้ไขที่สำคัญที่สุดอย่างหนึ่งของแผนนี้เป็นการยกเลิกระบบ "หนึ่งกลุ่มหนึ่งคะแนน" ของพรีเมียร์ลีกและก็เปลี่ยนแปลงเหตุการณ์ตอนนี้ที่สมาคมในพรีเมียร์ลีกขั้นต่ำ 14 สมาคมจะต้องอนุมัติการโหวตที่สำคัญใดๆก็ตามตามวิสัยทัศน์ใหม่พรีเมียร์ลีกในอนาคตควรจะมีเก้าสมาพันธ์ที่อยู่ในลีกนานที่สุด ถ้าเกิดต้องกำหนดแผนใหม่และก็กฎใหม่จะมีเพียงแค่ 6 ใน 9 กลุ่มของอาร์เซนอล, เชลซี, เอฟเวอร์ตัน, หงส์แดง, แมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด, แมนเชสเตอร์สิตี้, เซาแธมป์ตัน, ท็อตแนมแล้วก็เวสต์หมูแฮมเพียงแค่นั้นซึ่งสามารถผ่านไปได้

คนไหนกันเห็นด้วย? ผู้ใดกันแน่ต้าน?

โดยสรุปแล้วจะมองเห็นได้อย่างง่ายๆว่า "แผนภาพใหญ่" เป็นแผนสำหรับคนมั่งมีรวมทั้งผู้มีอิทธิพลในพรีเมียร์ลีกที่จะรวมกลุ่มกับ "ชาวไร่ชาวนากึ่งกลางและก็ด้านล่างที่ยากไร้" เพื่อยึดอำนาจจาก "กสิกรกึ่งกลาง" ในพรีเมียร์ลีก คลับ. สิ่งที่อดีตกาลหวังจะได้รับไม่เพียงแค่ แม้กระนั้นระบบการแข่งขันชิงชัยในประเทศที่บรรเทามากยิ่งขึ้นเพียงแค่นั้น แต่ว่าด้วยภาระหน้าที่ที่ค่อนข้างจะค่อยกว่าก็เลยสามารถทุ่มเทพลังงานให้กับงานที่มีมูลค่าเชิงพาณิชย์สูงมากขึ้นและก็ได้รับความพอใจเพิ่มมากขึ้น (ดังเช่นแชมเปี้ยนส์ลีก) แล้วก็ยังมีคำอื่นๆอีก ถูกและก็กำจัดความอารมณ์เสียของกลุ่มขนาดกึ่งกลางรวมทั้งเล็กในหัวข้อการตัดสินใจ อาทิเช่นก่อนเปิดฤดูใหม่กลุ่มในพรีเมียร์ลีกโดยมากหวังว่าจะรักษาการสลับตัวได้ 5 ครั้ง แต่ว่าเมื่อพวกเขาจนตรอกสำหรับเพื่อการโหวตปริมาณโหวตก็ไม่มากมายพอๆกับลูกฟุตบอลลูกเล็กๆ

จากการเปิดเผยของสื่อ "The Athletic" บอกว่า "Big Picture Project" ที่จริงแล้วเริ่มคิดแผนเมื่อสามปีที่ผ่านมา แม้ว่าจะยังไม่ชัดแจ้งว่าผู้ใดกันแน่เป็นผู้บุกเบิกที่จริงจริง แม้กระนั้นก็เป็นที่แน่ๆว่าอีกทั้งครอบครัวเกลเซอร์ของผู้ครอบครองแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ดรวมทั้งจอห์นเฮนรีผู้ครอบครองหงส์แดงได้เสวนากันแล้ว นอกนั้นประธานเชลซีและก็บรูซบัคชาวอเมริกันยังร่วมการอภิปรายอย่างกระตือรือร้น การเพิ่ม Rick Parry ประธาน EFL ซึ่งก่อนหน้าที่ผ่านมาเห็นด้วยการมาเยี่ยมของ "Daily Telegraph" เพื่อสรรเสริญแนวทางแก้ไขสิ่งกลุ่มนี้เป็นผู้ช่วยเหลือหลักของ "ภาพรวม"

ประธาน EFL ปัดป้อง

เนื่องมาจากแผนใหม่ดูเหมือนจะช่วยลีกระดับที่ค่อนข้างต่ำได้มากแผนนี้ก็เลยได้รับการส่งเสริมอย่างเร็วจากชมรมเล็กๆล้นหลาม ยกตัวอย่างเช่น Piri ผู้ครอบครองกลุ่มลำดับที่สองของอังกฤษ Fleetwood Town ลุกขึ้นยืนแล้วก็ชมเชย "ภาพรวม" ต่อสาธารณะว่าเป็น "เป้าหมายที่เหมาะสมที่สุดที่สามารถจะช่วยสมาพันธ์ EFL จากการทำลาย" เนื่องจากว่าผลพวงของการแพร่ระบาดของมงกุฎครั้งใหม่กลุ่มในลีกระดับที่ค่อนข้างต่ำของอังกฤษที่ไม่มีรายได้ในวันชิงชัยกำลังพบเจอกับวิกฤตที่ไม่เคยมีมาก่อน ในประเด็นนี้หากว่ารัฐบาลอังกฤษกำลังตรึกตรองแผนการเกื้อหนุนราคา 100 ล้านปอนด์ในมุมมองของประธาน EFL Parry จำเป็นจะต้องมีการลงทุนอย่างต่ำ 250 ล้านปอนด์เพื่อเลี่ยงการหมดเนื้อหมดตัวครั้งใหญ่ของสมาคมขนาดเล็ก

เว้นเสียแต่คนที่มีความคิดริเริ่มแผนแล้วก็คนที่อยากความช่วยเหลือเกื้อกูลอย่างเร่งด่วนแล้วสมาพันธ์ของอาร์เซนอลแมนเชสเตอร์สิตี้และก็ท็อตแนมที่ยังมิได้แถลงต่อสาธารณะอย่างแจ่มแจ้งก็ยังพูดว่าพอใจใน "ภาพรวม" อย่างไรก็แล้วแต่ถ้าหากมีการเกื้อหนุนแผนนี้อย่างมากมายก็จะมีการต้านทานอย่างแน่แท้แม้กระทั้ง "สมาชิกของคณะกรรมการยืน" ในตำนานก็มิได้เป็นเสาหิน ตามข่าวสารของ BBC บุคคลที่เคยชินกับเวสต์หมูแฮมได้แสดงทีท่าคว่ำบาตรของชมรมต่อพวกเขาแล้วถึงแม้ว่าแฮมเมอร์สจะถูกบอกว่าเป็นเยี่ยมในกลุ่มที่มีสิทธิออกเสียงสำหรับการตกลงใจตามแผนปรับปรุง

9 กลุ่มโหวตรวมทั้ง 6 กลุ่มเห็นด้วยแล้วก็ผ่านไปได้อย่างง่ายดายสำหรับผู้ที่มีวิจารณญาณจะพบว่ากฎดังที่ได้กล่าวมาแล้วสามารถทำให้พรีเมียร์ลีกตกอยู่สำหรับการควบคุมด้วยกันของ "หกขั้นแรก" ได้อย่างสะดวกสบาย เอฟเวอร์ตันเซาแธมป์ตันแล้วก็เวสต์หมูแฮมที่เหลือสามารถปฏิบัติภารกิจเป็นเกียดได้แค่นั้นถึงแม้พวกเขาจะค้านก็ตาม รวมทั้งสิ่งนี้มีลัษณะทิศทางที่จะทำให้แนวทางในอนาคตของพรีเมียร์ลีกมีความไม่เสมอภาคมากเพิ่มขึ้นต่อกลุ่มที่อดทนในด้านของการเซ็นสัญญากระจายเสียงและก็ผู้กระทำระจายรายได้หกขั้นแรกมักมีความคิดเห็นมากมายก่ายกองเกี่ยวกับกระแส " หม้อใหญ่” พร้อมกันไปกับการลดปริมาณสถานที่รวมทั้งเพิ่มแรงกดดันต่อการตกชั้นก็เลยไม่มีทางเป็นไปได้เป็นอย่างมากที่ "ภาพรวม" จะได้รับการผลักดันและส่งเสริมจากระดับกึ่งกลางและก็ข้างล่างของพรีเมียร์ลีก ยิ่งไปกว่านี้ครั้งคราวมใน British Championship ก็เกลียดชังการแก้ไขโครงสร้างนี้ด้วยเหมือนกันในทางหนึ่งความยากสำหรับในการอัพเกรดภายใต้กฎข้อปฏิบัติใหม่จะมากขึ้นในระดับหนึ่งแล้วก็การเสี่ยงสำหรับเพื่อการลดระดับภายหลังที่ไปถึงเป้าหมายก็มากขึ้นอย่างยิ่งเหมือนกัน

เป็นได้ไหมที่จะปฏิบัติการ?

แม้ทั้งสองฝ่ายยืนหยัดด้วยกันจะเป็นได้ไหมที่ "แผนภาพใหญ่" จะผ่านแล้วก็นำไปปฏิบัติได้เสร็จ? กลุ่มในลีกระดับที่ค่อนข้างต่ำที่รอคอยการ "ผ่อนผัน" มีหวัง ในประเด็นนี้คอนเวย์ประธานสมาคมของบาร์นสลีย์เคยกล่าวไว้ว่า“ ถ้าเกิดชมรมเล็กๆของพรีเมียร์ลีกไม่เห็นพ้องสมาคมในพรีเมียร์ลีกก็ยังสามารถรวมกลุ่มกับกลุ่มที่เข้มแข็งจากประเทศอื่นๆในยุโรปและก็ยังคงช่วยเหลือแนวทางย้ายเกมแชมเปี้ยนส์ลีกไปจนกระทั่งสุดสัปดาห์ ด้วยแนวทางลักษณะนี้ภายหลังจากมีการเปลี่ยนพรีเมียร์ลีกมากยิ่งขึ้นในตอนกึ่งกลางอาทิตย์สมาคมเล็กๆก็จะได้รับความทรุดโทรมอย่างมากด้วยเหมือนกันจะเป็นเรื่องดีกว่าที่จะปลดปล่อยให้ชมรมใหญ่ๆเพิ่มค่าแบรนด์สุดยอดของอีกทั้งลีก "

แต่ว่าคำขู่ดังที่กล่าวมาแล้วข้างต้นจะก่อให้ "ฝ่ายค้าน" ปราบได้ไหม? เมื่อตรึกตรองจากเหตุการณ์ปัจจุบันนี้ผู้ช่วยเหลือแผนเปลี่ยนแปลงมิได้เป็น "เสียงส่วนมาก" ภายหลังแผนดังที่กล่าวมาข้างต้นถูกเผยทางการพรีเมียร์ลีกได้ออกถ้อยแถลงบอกว่า "กลยุทธ์เปลี่ยนแปลงที่เผยบางทีอาจมีผลร้ายเป็นอย่างมากต่อพรีเมียร์ลีก" ถึงแม้ว่าเอฟเอจะมิได้แถลงอย่างแจ่มแจ้งในทันทีทันใด แม้กระนั้นพวกเขาก็ยังคงอยู่ข้างฝ่ายค้าน

บอลอังกฤษไม่เพียงแต่แบ่งได้สองส่วนรัฐบาลอังกฤษยังแสดงทีท่าภายหลังจากจบ ในตอนสุดสัปดาห์ก่อนหน้านี้ผู้ประกาศของกระทรวงดิจิทัล, วัฒนธรรม, สื่อรวมทั้งกีฬาของอังกฤษได้แสดงความหมดหวังกับ "แผนภาพรวม" แล้วก็บอกใบ้ว่ามี "กติกาเบื้องหน้าเบื้องหลัง" สำหรับเพื่อการปฏิวัติคราวนี้ พิธีกรอย่างเป็นทางการของนายกฯอังกฤษบอริสจอห์นสันยังให้ความคิดเห็นที่คล้ายคลึงกันในอาทิตย์นี้ว่า“ ข้อแนะนำนี้มิได้รับการผลักดันและส่งเสริมตลอดทั้งพรีเมียร์ลีกแนวทางการทำธุรกรรมเบื้องหน้าเบื้องหลังรูปแบบนี้ยังทำลายความเชื่อใจของมนุษย์สำหรับเพื่อการจัดแจงบอลด้วย”

นายกฯอังกฤษดูเหมือนจะไม่สนับสนุน "ภาพใหญ่"

อันที่จริงหากว่า "ภาพรวม" จะมีมาตรการบางสิ่งบางอย่างที่จะเอาชนะดวงใจแฟนคลับได้ (เป็นต้นว่าราคาตั๋วเยี่ยมถูก จำกัด ไว้ที่ 20 ปอนด์) แต่ว่าก็ไม่ใช่เรื่องยากที่คนสามัญจะมีความคิดว่าผู้ก่อตั้งแผนเป็นเพียงแค่ของเทียม ความกรุณาปรานี มีคนทำให้เห็นว่าดูอย่างกับว่ายักษ์ใหญ่ในพรีเมียร์ลีกจัดเตรียมทำเงินทุกปี แม้กระนั้นเมื่อพินิจว่าลีกจะเสียเงินเสียทองให้กับสองกลุ่ม "ร่มชูชีพ" ในตอนนี้ที่ส่งเสริมการตกชั้นของพรีเมียร์ลีกบางทีอาจต่ำลงด้วยหรือ แม้ว่าจะถูกยกเลิกแล้วก็ผลตอบแทนของกลุ่มที่เข้มแข็งก็ไม่อาจมีได้เรื่องสูญเสีย - พวกเขาเพิ่งจะมอบเงินที่จัดแบ่งให้กับกลุ่มที่อ่อนแอของพรีเมียร์ลีกไปยังลีกที่ต่ำกว่า

ฝ่ายค้านร้ายแรงมากมายจนกระทั่ง "เดลี่เทเลกราฟ" ที่ตีข่าวสารทีแรกนึกไม่ออกว่า "แผนภาพใหญ่" จะผ่านไปได้เช่นไร ในหัวข้อนี้พวกเขาตั้งข้อสันนิษฐานว่า“ แมนเชสเตอร์ยูไนเต็ดแล้วก็หงส์แดงบางทีอาจเป็นหัวหน้าสำหรับในการออกมาจากพรีเมียร์ลีกแล้วก็ร่วม EFL” ที่จริงในหัวข้อนี้สื่ออังกฤษเคยถามประธาน EFL“ ว่าพรีเมียร์ลีก หกขั้นตอนแรกกำลังใคร่ครวญที่จะเริ่มหลักสูตรใหม่” แต่ว่า Parry ไม่ตอบกลับ คาดได้ว่าในขั้นตอนการปรึกษาขอคำแนะนำเกี่ยวกับแผนปรับปรุง Parry แล้วก็คนอื่นจำเป็นต้องมุ่งมาดการต้านอย่างหนัก ส่วน "ภาพรวม" จะสามารถเดินต่อไปได้ในอนาคตหรือเปล่านั้นขึ้นกับว่าพวกเขายังมีเคล็ดวิธีใด

สามารถติดตามบทความอื่นๆ ได้ที่นี้ : chotikamasphirin 1